breaking news

ถั่วงอกบรรพบุรุษ เล็กแต่ยิ่งใหญ่สร้างรายได้ดี 4 รุ่นที่ทำมา

มกราคม 29th, 2021 | by administrator
ถั่วงอกบรรพบุรุษ เล็กแต่ยิ่งใหญ่สร้างรายได้ดี 4 รุ่นที่ทำมา
About Prototype
0

ถั่วงอก จัดเป็นผักที่ราคาไม่แพง และยังเป็นผักที่ได้รับว่าการขนานนามว่าเป็นมรดกทางอาหารอีกด้วยเมื่อเทียบกับผักชนิดอื่นแล้ว ยังสามารถเพาะได้ทุกฤดู และยังสามารถทำกำไรได้อีกมากมาย เหมือนกับครอบครัวหนึ่งที่อาศัยอยู่ในจังหวัดลพบุรี  คือครอบครัวของ สิบเอก นภสินธุ์ ศรีอ่วมบู่ ชื่อเล่นคุณพี อายุ23ปี ซึ่งมีอาชีพหลักคือรับราชการทหาร แต่มีอาชีพเสริมคือการเพาะปลูกถั่วงอกที่เป็นอาชีพหลักของครอบครัวอีกด้วย 

จุดเริ่มต้นคือว่างงาน ทำไปทำมาสร้างรายได้ 4 รุ่นเเล้ว

สิบเอกนภสินธุ์ กล่าวว่า จุดเริ่มต้นคือเป็นธุรกิจของทางครอบครัว โดยเป็นการปลูกถั่วงอกที่ทำมานานเเล้ว 4 รุ่น ตั้งแต่ รุ่นของ คุณยายทวด คุณปู่ คุณพ่อ เเละมาถึงรุ่นของตัวเจ้าตัวเอง ซึ่งคุณยายได้เล่าให้สิบเอกนภสินธุ์ฟังว่า ตอนนั้นคุณยายทวด ว่างงานอยู่ จึงได้เริ่มคิดหาอาชีพเสริมเลยหันมา ปลูกถั่วงอกขาย เเต่เมื่อเวลาผ่านไปนั้นกลับกลายมาเป็นอาชีพหลักและถั่วงอกจึงตกเป็นมรดกตกทอดของครอบครัว มานานกว่า 40 ปีแล้ว และเหตุผลที่ทำให้ทำธุรกิจได้ดำเนินมาถึง 4 รุ่น เหตุผลคือเป็นเพราะถั่วงอกที่มีคุณภาพดีลำต้นอวบอ้วน น่ารับประทาน จึงทำให้ผู้คนในจังหวัดลพบุรีซื้อขายกับทางฟาร์ม

จุดเริ่มต้นของการขาย สร้างรายได้ วันละ 2,000 บาท

สิบเอกนภสินธุ์ เล่าว่า ที่ถั่วงอกเป็นอาชีพหลักของที่บ้านเพราะสามารถขายได้ง่ายและมีต้นทุนต่ำ แต่กำไรสูง เนื่องจากมีที่บ้านของตนมีน้ำให้ใช้ตลอดทั้งปี เป็นน้ำคลองชลประทานที่ไหล และยังสามารถเอามารดน้ำถั่วงอกได้ดีและยังนำไปแปรรูปได้ง่ายเกี่ยวกับการเกษตรได้อีกด้วย เช่นการนำกากถั่วงอกมาผสมปุ๋ยเพื่อเอาไปใช้ในการเพาะปลูกต้นไม้หรือพืชต่างๆ ได้ดีซึ่งการขายถั่วงอกของครอบครัวนั้น ยังสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัววันละ ไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท เพราะผู้คนในจังหวัดลพบุรีมาทำการซื้อขายกับฟาร์มของตัวตลอด ทั้งส่งออกในตลาด ตามหมู่บ้านต่างๆ เเละยังคงส่งทางร้านก๋วยเตี๋ยวอีกด้วย

ต้นทุนน้อยกว่ากำไร สร้างรายได้สูงต่อสัปดาห์

นอกจากนี้สิบเอกนภสินธุ์ ยังกล่าวถึงต้นทุนในการจำหน่ายถั่วงอกในตลาดสด ว่า จำหน่ายตั้งแต่กิโลกรัมละ 35-45 บาท ยกตัวอย่าง ถั่วแขกลงทุน 70 บาท ขายเป็นถั่วงอกได้ 7 กิโลกรัม ขายราคากิโลกรัมละ 35-45 บาท หักต้นทุน จะเหลือกำไร 70 บาท แต่ถ้าขาย ในระยาเวลาต่อเดือนจะตกแล้ว ต้นทุน 10,000 ได้กำไร 35,000-41,000 บาท โดยประมาณ

ซึ่งเมื่อพร้อมที่จะเก็บไปขาย  ส่วนขั้นตอนการคัดเอาเปลือกถั่วเขียวออกจากถั่วงอกนั้น ก็จะตัดตัวถั่วงอกออกจากโคลน ใช้พัดลมขนาดใหญ่เป่า แล้วนำผ้ามุ้งมาปูแล้วจากการเอาเปลือกของถั่วเขียวออกนำถั่วงอกที่แยกเปลือกไปแช่ในน้ำและทำการล้างถั่วงอกให้สะอาดโดยประมาณ 3 น้ำ และ นำถั่วงอกมาใส่กระด้งเพื่อร่อนให้เปลือกถั่วที่ยังติดอยู่เล็กน้อยออกพอคัดได้ถั่วงอกล้วนแล้ว ก็เก็บใส่ถุงชั่งกิโลกรัมพร้อมนำไปขายในตลาดและลูกค้าที่สั่งเป็นประจำ

โดยทุกวันที่ไปขายถั่วงอกจะตื่นมาตอนตี 4 ครึ่ง เพื่อทำการเตรียมถั่วงอกไปขายที่ตลาดสดทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ จากการขายถั่วงอกที่ตลาดสด จะขายได้เกือบ30-35 กิโลกรัมต่อวัน คิดเป็นเงิน เฉลี่ยกิโลกรัมละ35 บาท รวมเป็นเงิน 1,050 บาท และส่งให้ลูกค้าประจำตกเป็นกิโลกรัมต่อวันคือ 50-60 กิโลกรัม รวม 2,100 บาท หลังจากนั้นจะนำเงิน ทั้งหมดที่ขายได้ต่อวันรวมทั้งหมด 3,200 บาทมาหักลบต้นทุกออก เฉลี่ยเเล้วจะกำไรวันละ 1,200 บาท ซึ่งทางครอบครัวจะเงินที่เป็นกำไรมาเก็บออม 

อุปกรณ์การปลูก ไม่สับซ้อน ไม่ซ่อนเคล็ดลับ

สำหรับอุปกรณ์สิบเอกนภสินธุ์ เเนะนำว่า การเพาะถั่วงอกสามารถใช้ได้หลายอย่างตามความเหมาะสม ทั้งตะกร้า ผ้าขาวบาง แต่สิ่งสำคัญต้องสามารถระบายน้ำได้ดี น้ำไหลผ่านได้สะดวก อาทิ ถังน้ำพลาสติกโดยเจาะรูที่ก้นถัง กะละมังเจาะรูที่ก้น หรือถาดพลาสติกมีรูถี่ แม้กระทั่งขวดน้ำพลาสติกก็สามารถใช้เป็นอุปกรณ์ได้เช่นกัน สำหรับเครื่องสูบน้ำ จะมีปั้มแรงดันสูง เพื่อสูบน้ำมาที่บ่อพักน้ำและทำการกรองในบ่อพักน้ำก่อน นาน 1 วัน เพื่อกรองตะกอนก่อนที่จะนำมารดถั่วงอก หากใครอยู่ใกล้คลองจะได้เปรียบกว่าในเรื่องใช้น้ำประปา โดยต้องสูบขึ้นมาจากคลองแล้วพัก เพราะการเพาะถั่วงอก สำคัญคือ ใช้น้ำในจำนวนมาก ต้องรดน้ำทั้งวันทั้งคืน หากใช้น้ำประปาจะเสียใช้ค่าน้ำที่มีจำนวนมาก ดังนั้นหากใช้น้ำในคลองจะประหยัดทุนได้พอสมควร  

ปลูก 5 วัน ทำกำไร สร้างรายตลอดทั้งปี

สิบเอกนภสินธุ์ ยังแนะนำการปลูกถั่วงอกว่า เพื่อให้ได้ต้นที่สวยงาม อวบอ้วน กรอบเเละอร่อย เริ่มจากขั้นตอนที่1.นำถั่วเขียวผิวดำ มาล้างทำความสะอาดให้เกลี้ยงโดยใช้น้ำยาสูตรพิเศษ  ร่อนเพื่อนำวัตถุแปลกปลอมออกให้หมด หลังจากนั้นแช่น้ำทิ้งไว้ 6 ชั่วโมง

2.นำเมล็ดถั่วที่ผ่านการร่อนและล้างน้ำทำความสะอาดแล้ว เพาะลงถังที่เจาะร่องไว้เพื่อระบายน้ำ ใช้ถังขนาด 200 ลิตรตัดครึ่ง ใส่ถั่วเขียวผิวดำลงไปในถังประมาณ 7 กิโลกรัม นำตาข่ายมาบังไว้เพื่อไม่ให้น้ำกระแทกถูกเมล็ดแรงเกินไป

3.รดน้ำผ่านตาข่ายทุกวัน โดยใช้ฝักบัว เพื่อให้น้ำกระจายทั่วถึง รดน้ำทุกๆ 2  ชั่วโมง เป็นเวลา 3 วัน (เฉลี่ยรดน้ำวันละ 12 ครั้ง) เมล็ดถั่วแขกจะงอกเป็น ถั่วงอกสีขาว อวบอ้วน น่ารับประทาน

จุดเด่นของถั่วงอก เล็กเเต่จิ๋ว กรอบ อร่อย ไม่ใส่สาร หายกังวล

จุดเด่นของถั่วงอกของทางฟาร์มของครอบครัวสิบเอกนภสินธุ์ คือ ถั่วงอกจะมีรูปทรงที่อวบ ขาว มีกลิ่นเหม็นเขียวนิดๆ เพื่อให้รู้ถึงว่าถั่วงอกของทางฟาร์มสดและสะอาด ไม่ใช้สารเคมีใดๆ ในการเพาะปลูก ทำให้เวลาเอาไปแปรรูปเป็นอาหารจะมีจุดเด่นของถั่วงอกที่ออกมาคือ รสหวาน ไม่มีกลิ่นเฝื่อนและเวลากัดถั่วงอก จะมีความกรอบที่เนื้อสัมผัสเหมือนกับขนมขบเขี้ยวเล็กๆ ซึ่งถ้านำถั่วงอกไปต้มในน้ำซุป จะทำเกิดรสชาติที่หวานขึ้น และไม่มีกลิ่นเหม็นเขียวติดน้ำซุป ซึ่งหากนำไปผัดก็จะยังมีความกรอบของถั่วงอกอยู่ จึงเป็นจุดเด่นของถั่วงอกของทางฟาร์มนั่นเอง 

ปลูกในพื้นที่จำกัด ไม่กังวลเรื่องเลอะเทอะ

ซึ่งสามารถหาภาชนะได้ตามหอพักหรือร้านค้าได้ เช่น 1. กะละมัง หรือ ถัง  หม้อ  2.ตะกร้ากลมแบบมีรูพรุนที่ก้น  ใบละ 10 บาท 3. ฝาหม้อ  ไว้ปิดเพื่อรักษาความชื้น วิธีการปลูกก็เหมือนทั่วๆ ไปนำถั่วเขียวแช่น้ำ 1 คืน แล้วเทใส่ตระกร้าเกลี่ยให้ปิดก้นตะกร้าให้มิด รดน้ำให้ชุ่ม เอาตะกร้าวางใส่กะละมัง (ใส่น้ำในกะละมังสักครึ่งแก้ว  อย่าให้ท่วมถึงก้นตะกร้า) แล้วปิดฝา ระยะเวลาปลูกก็ปกติเหมือนวิธีที่ปลูกในฟาร์ม สองวันแรก  เปิดฝามาพรมน้ำบ่อยๆ  กลางวันรดน้ำทุกชั่วโมงก็ยิ่งดี   ระวังอย่าให้น้ำท่วม    เทน้ำเก่าทิ้งเมื่อน้ำมีสีเขียว  ใส่น้ำไว้ที่ก้นกะละมังเพื่อให้ความชื้น บางส่วนรากทะลุรูตะกร้าลงไปกินน้ำในกะละมัง  หากจะตัดราก แนะนำใช้มีดกรีดรากด้านนอกตะกร้าได้เลย คราบเขียวจากเปลือกถั่วที่ก้นตะกร้า สามารถนำแปรงพลาสติกมาขัดล้างได้ง่าย

สิบเอกนภสินธุ์กล่าวว่า สำหรับใครที่มีพื้นที่น้อยในการปลูก เช่น หอพัก คอนโด หรือ อพาร์ทเมนท์ ในพื้นที่เล็กๆ หรือพื้นที่ ที่มีจำกัด สามารถปลูกเองได้ง่าย ไม่ต้องกลัวสกปรกเลอะเทอะ  สะอาดสามารถรับประทานได้ทั้งราก ใครชอบทานถั่วงอกสดก็สามารถทานได้อย่างสบายใจ  ไม่ต้องกลัวเลอะดินเลอะทราย

คุณพียังกล่าวทิ้งท้ายอีกว่า สถิติราคาถั่วงอก ที่ขายมามีมูลค่าเพิ่มขึ้น เมื่อ 10 ปีก่อนราคาถั่วงอกอยู่กิโลกรัมละ 20 บาท ซึ่งราคาของถั่วงอกคงที่มานานกว่า 6-7 ปีแต่ พอเข้าปีที่ 8 ราคาเติบโตขึ้นเลื่อยๆ เนื่องจากมีคนบริโภคมากขึ้น จึงทำให้ราคาเพิ่มขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 35-45 บาท แล้วแต่ขนาดของถั่วงอกและร้านก๋วยเตี๋ยว ยังคงต้องการมากขึ้นจึงทำให้ เกิดการขาดตลาด จึงทำให้ทางครอบครัวของตนทำอาชีพนี้ เพราะมีความต้องการมาก ทำให้มีกำไรจากส่วนนี้และสามารถเลี้ยงคนทั้งครอบครัวได้มาถึง 4 รุ่นอีกด้วย

Share This:

Comments are closed.