breaking news

ผ้าอนามัย ค่าใช้จ่ายที่หญิงไทยต้องแบกรับ

มกราคม 31st, 2021 | by administrator
ผ้าอนามัย ค่าใช้จ่ายที่หญิงไทยต้องแบกรับ
Money Wise
0

ในประเทศไทย ผ้าอนามัยแบบแผ่นนั้นเป็นสินค้าควบคุมแต่ยังเป็นสินค้าที่มีการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเหมือนสินค้าโดยทั่วไป คือ อยู่ที่อัตราร้อยละ 7 แต่ทั้งนี้ผ้าอนามัยนั้นถือเป็นสิ่งจำเป็นของผู้หญิงจึงมีการเรียกร้องให้ลดราคาผ้าอนามัยเพื่อให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น

ผ้าอนามัยในไทย แพงจริงหรือ?

เมื่อสำรวจในต่างประเทศจะพบว่ามีหลายประเทศมีการยกเว้นภาษีผ้าอนามัยไปแล้ว ได้แก่ แคนาดา อินเดีย  จาไมกา  เคนยา ไอซ์แลนด์  แอฟริกาใต้  ออสเตเรีย  มาเลเซีย  นิคารากัว  และอีกหลายๆ รัฐในสหรัฐอเมริกา  ส่วนประเทศเยอรมนี  ก็ได้มีการเปลี่ยนการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับผ้าอนามัยจากเดิม 19% เป็น 7%  สำหรับฮังการี เป็นประเทศที่มีภาษีมูลค่าเพิ่มสูงที่สุดในยุโรปและสูงที่สุดในโลกอีกด้วย อยู่ที่ 27% ตามมาด้วยประเทศสวีเดน  เดนมาร์กและโครเอเชีย อยู่ที่ 25% อีกหนึ่งประเทศที่มีภาษีมูลค่าเพิ่มสูงก็คืออาร์เจนตินา อยู่ที่ 21% เม็กซิโก 16% สเปนและสหรัฐอเมริกา (ในบางรัฐ) อยู่ที่ 10%  อิหร่าน 9%   สวิตเซอร์แลนด์ 7.7%เนเธอร์แลนด์6%  ฝรั่งเศษ  5.5% โคลอมเบียและสหราชอาณาจักร 5% ในขณะที่ประเทศกรีซมีการเพิ่มภาษีผ้าอนามัยจาก 13% เป็น 23%

อย่างไรก็ตาม แม้บางประเทศในยุโรปยังคงมีภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่ อาทิ ประเทศฮังการีที่มีภาษีผ้าอนามัยสูงที่สุดในยุโรป 27 % ราคาจะอยู่ที่ห่อละ 4,048 – 9,622 โฟรินท์ฮังการี หรือประมาณ 410 – 975 บาท ในหนึ่งห่อมีจำนวนผ้าอนามัยตั้งแต่ 40 – 180 แผ่น เฉลี่ยแผ่นละ 5 – 8 บาท ซึ่งค่าแรงขั้นต่ำของประเทศฮังการีจะอยู่ที่ 670 โฟรินท์ฮังการี หรือประมาณ 66 บาทต่อชั่วโมง ราคาของผ้าอนามัย 1 ห่อ จึงคิดเป็น  40 % ของค่าแรงขั้นต่ำ  และประเทศเยอรมนี มีการปรับเปลี่ยนการจัดเก็บภาษีจากเดิม 19 % เป็น 7 % ซึ่งผ้าอนามัย 1 ห่อมีจำนวนมากถึง 60 ชิ้น และราคาจะอยู่ที่ 2.34 – 2.75 ยูโร หรือประมาณ 85 – 100 บาท เฉลี่ยแผ่นละ 1 – 2 บาท ซึ่งค่าแรงขั้นต่ำของประเทศเยอรมนีจะอยู่ที่ 9.19 ยูโร หรือประมาณ 308 บาทต่อชั่วโมง ราคาของผ้าอนามัย 1 ห่อ จึงคิดเป็น 2 % ของค่าแรงขั้นต่ำ  สำหรับประเทศแคนาดา เป็นประเทศที่มีการยกเลิกเก็บภาษีผ้าอนามัย ราคาจะอยู่ที่ห่อละ 8 – 10 ดอลลาร์แคนาดา หรือประมาณ 209 – 238 บาท แต่ละห่อมีจำนวนผ้าอนามัยตั้งแต่ 24 – 129 แผ่น เฉลี่ยแผ่นละ 2 – 8 บาท ซึ่งค่าแรงขั้นต่ำของประเทศแคนาดาจะอยู่ที่ 14.60 ดอลลาร์แคนาดา ประมาณ 329 บาท ต่อชั่วโมง ราคาของผ้าอนามัย 1 ห่อ จึงคิดเป็น 2 % ของค่าแรงขั้นต่ำ

เมื่อเทียบกับประเทศไทยที่มีภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่ที่ 7% เช่นเดียวกับเยอรมนี เมื่อคำนวณจากรายได้ขั้นต่ำของประเทศไทย เฉลี่ยที่ประมาณ 320 บาท ราคาของผ้าอนามัยในปัจจุบันมีราคาอยู่ที่ประมาณแผ่นละ 4 บาท จากข้อมูลด้านการแพทย์ นายฎฬัณ มิตรมาตร แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป โรงพยาบาลลือำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ ให้คำแนะนำสำหรับการใช้ผ้าอนามัยทั่วไปว่า ผ้าอนามัยควรเปลี่ยนทุกๆ 4 ชั่วโมง หากใส่นานเกินไป  อาจเกิดการสะสมของเชื้อโรคจนทำให้เกิดการติดเชื้อในช่องคลอดได้ และควรล้างมือให้สะอาดทั้งก่อนและหลังการเปลี่ยนผ้าอนามัย ด้วยสบู่และเช็ดให้แห้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคจากภายนอกเข้าไปในช่องคลอด และไม่ให้เชื้อโรคจากผ้าอนามัยกระจายปนเปื้อนไปยังที่ต่างๆ ดังนั้น ผู้หญิงควรใช้ผ้าอนามัยอย่างน้อย 4 ชิ้นต่อวัน ถือเป็นค่าเฉลี่ยค่าใช้จ่ายวันละ 36 บาท ซึ่งคิดเป็น 11 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ขั้นต่ำต่อวัน


สำหรับนักศึกษาและผู้ที่มีรายได้น้อย การปรับราคาผ้าอนามัยสูงขึ้นนั้น จึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก  โดยราคาจะมีตั้งแต่ประมาณ 16 – 169 บาทต่อ 1 ห่อ ซึ่งราคานั้นขึ้นอยู่กับจำนวนชิ้น ความยาวของผ้าอนามัย รูปแบบของผ้าอนามัย เช่น ความบาง กลิ่น หรือการป้องกันการซึมเปื้อนต่างๆ ตามแต่ละแบรนด์สร้างขึ้นมา

ทั้งนี้จากการสัมภาษณ์ นักศึกษาผู้หญิงระดับปริญญาตรี พบว่าค่าใช้จ่ายในการซื้อผ้าอนามัยต่อเดือนอยู่ที่หลายร้อยบาทซึ่งหากสามารถลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ลงได้ก็สามารถนำเอาเงินไปใช้จ่ายในสิ่งจำเป็นอื่น ๆ ได้อีก

นางสาวณัฐริกา โพธิ์นา นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวารสารศาสตร์คอนเวอร์เจ้นท์ คณะนิเทศศาสตร์ เปิดใจว่า  ราคาของผ้าอนามัยที่สูงขึ้นในปัจจุบัน ส่งผลกระทบกับนักศึกษาผู้หญิงและผู้ที่มีรายได้น้อยหลายๆ คน เพราะผ้าอนามัยเป็นสิ่งที่จำเป็นในทุกๆ เดือน  และเมื่อเป็นประจำเดือนในหนึ่งวันใช้ผ้าอนามัยไม่ต่ำกว่า 5 แผ่น เพราะต้องเปลี่ยนทุก 4 ชั่วโมง หรือถ้าในวันมามากจะเปลี่ยนบ่อยมากขึ้น  โดยในแต่ละครั้งใช้เงินไปกับการซื้อผ้าอนามัยประมาณ 300 บาท และตนต้องแบ่งเงินเพื่อใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ อีกด้วย  นอกจากนี้นางสาวณัฐริกา กล่าวต่ออีกว่า ผ้าอนามัยที่มีราคา 16 บาทนั้น ควรที่จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นจาก 4 ชิ้น เป็น 8 ชิ้นในหนึ่งห่อ เพราะน่าจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้นถึงเท่าตัว

ด้านนางสาวกัลยรัตน์ ลาภทิพมนต์ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวารสารศาสตร์คอนเวอร์เจ้นท์ คณะนิเทศศาสตร์ เห็นตรงกันกับนางสาวณัฐริกาว่า ผู้หญิงบางคนไม่สามารถซื้อผ้าอนามัยที่มีราคาสูงได้ และอยากให้มีการเพิ่มปริมาณผ้าอนามัยภายในห่อ หรืออาจจะลดราคาให้ถูกลง

“ปกติจะแบ่งเงินสำหรับซื้อผ้าอนามัย ไว้ในหมวดของใช้ส่วนตัว ซึ่งจะซื้อกักตุนไว้รวมกับของใช้อื่นๆ และเมื่อเป็นประจำเดือน ตนใช้ผ้าอนามัย 8-10 แผ่นในแต่ครั้ง  โดยตนนั้นใช้ผ้าอนามัยราคาห่อละ 62 บาท มีปริมาณ 8 ชิ้น เฉลี่ยแผ่นละ 7.75 บาท เหตุผลที่ใช้ราคานี้เพราะคิดว่าการที่ใช้ราคาที่แพงสามารถซึมซับประจำเดือนได้ดีกว่า สะอาดกว่า แต่ก็อยากให้มีการลดราคาลง เพราะว่าราคาของสิ่งที่จำเป็นกับผู้หญิงไม่ควรมีราคาที่สูงขนาดนี้ จึงเห็นว่าควรมีการใช้ราคามาตรฐานสำหรับผ้าอนามัย”

‘ถ้วยอนามัย’ ทางเลือกใหม่ของผู้หญิงสาย REUSE


นอกจากนี้เราอาจจะคุ้นเคยกับการใช้ผ้าอนามัยแบบแผ่น หรือผ้าอนามัยแบบสอด ซึ่งหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อ และผ้าอนามัยทั้งสองแบบยังต้องมีการเปลี่ยนระหว่างวันบ่อยๆ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ปัจจุบันมีรูปแบบผ้าอนามัยเพิ่มมากขึ้น ทั้งถ้วยอนามัยและผ้าอนามัยซักได้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และเป็นทางเลือกใหม่ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่นถ้วยอนามัย ที่ราคาค่อนข้างสูง แต่ระยะการใช้งานนาน และไม่ต้องเสียเงินซื้อบ่อยๆ 

          ด้านนางสาวนันธิชา ประสิทธิพรกุล ผู้ใช้ถ้วยอนามัย เผยว่า เหตุที่เปลี่ยนมาใช้ถ้วยอนามัย เป็นเพราะมีอาการแพ้ผ้าอนามัย จากนั้นก็เริ่มค้นหาข้อมูลว่าอะไรที่จะสามารถช่วยให้ไม่แพ้ จึงได้รู้จักกับถ้วยอนามัย และถ้วยอนามัยจะมีหลายราคา เช่นใน Shopee ราคาจะประมาณ 200-300 บาท แต่ถ้าเกรดดีราคาจะค่อนข้างสูง แต่ความคุ้มค่าของตัวถ้วยคือ สามารถใช้ได้นานถึง 10 ปี “สำหรับตนภาษีผ้าอนามัยที่มีราคาสูงขึ้น ตนไม่ได้รู้สึกอะไรที่ผ้าอนนามัยราคาสูงขึ้น เพราะอย่างไรมันก็คือสิ่งที่ผู้หญิงต้องใช้ในทุกๆเดือน” 

“การใช้ถ้วยอนามัยใช้เสร็จก็ต้องต้มเก็บไว้ใช้ในครั้งต่อไป ซึ่งประหยัดเงินในการซื้อผ้าอนามัยได้มาก และช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกด้วย เพราะเมื่อใช้ผ้าอนามัยจะมีการเปลี่ยนระหว่างวันบ่อย ใช้ทิชชูเยอะ แต่เมื่อใช้ถ้วยอนามัยซับแค่ปัจสาวะเท่านั้น หากต้องการเข้าห้องน้ำก็ไม่จำเป็นต้องถอดออก และในวันมามากอยู่ได้ถึง 4 ชั่วโมง สามารถถอดเททิ้งล้างน้ำเปล่าได้เลย  หากรู้สึกไม่สบายใจสามารถใช้สบู่เหลวล้างได้เลย และวันมาน้อย ถ้วยอนามัยอยู่ได้นานถึง 12 ชั่วโมง”

ในเรื่องของคุณภาพนางสาวนันธิชามีความมั่นใจว่า ถ้าเลือกซื้อเกรดดี ตัวซิลิโคนต้องดี แต่ก็อยู่ที่เราเลือกตั้งแต่ต้น หากถามถึงความปลอดภัย ก็อยู่ที่ตัวเรา ว่าเรารักษาความสะอาดมากน้อยเพียงใด ถ้าจะใช้ถ้วยอนามัยต้องต้มก่อน 5 นาที พอประจำเดือนหมดก็ต้องต้มเก็บไว้ แต่สำหรับเธอ ถ้วยอนามัยถือว่าดี สะดวก เพราะเธอใช้ผ้าอนามัยมาทั้งชีวิต สร้างความอึดอัด และยังก่อให้เกิดขยะของเสีย แต่สำหรับถ้วยอนามัยสามารถใช้ชีวิต ในแบบปกติได้เลย และที่สำคัญ สามารถลดความชื้น ได้มากกว่าผ้าอนามัย

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้คุณสมบัติของถ้วยอนามัยจะใช้ยาวนานได้ 12 ชั่วโมง แต่แพทย์แนะนำว่า เพี่อสุขภาวะที่ดีแนะนำให้เปลี่ยนทุก 3-4 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของเชื้อโรค ซึ่งเท่ากับจำนวนเดียวกันกับที่ใช้ผ้าอนามัยแบบแผ่นปกติ ทำให้โดยเฉลี่ยมีโอกาสต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเช่นกัน

          นางสาวจิรัชยา จิโรจน์พงศา นักกฎหมาย เผยว่า การที่ผ้าอนามัยแบบสอดได้ถูกจัดให้เป็นสินค้าประเภทเครื่องสำอาง หรือสินค้าประเภทฟุ่มเฟือย เนื่องจากผ้าอนามัยแบบที่ใช้ภายนอกและผ้าอนามัยที่ใช้ภายในชนิดสอด ล้วนแล้วแต่ถูกนิยามว่าเป็นเครื่องสำอาง ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 แต่ทั้งนี้เครื่องสำอางที่จะถูกจัดเก็บภาษีได้นั้น มีเพียงน้ำหอมเท่านั้น ดังนั้นการเก็บภาษีผ้าอนามัยแบบสอดตามพิกัดเพดานภาษีเครื่องสำอางจึงเป็นไปไม่ได้ ซึ่งหากจะช่วยลดภาระของผู้บริโภค และ เพิ่มทางเลือกของสุขอนามัยให้กับผู้หญิง การพิจารณายกเลิกภาษีผ้าอนามัยแบบสอดน่าจะช่วยให้ราคาถูกลงและหาซื้อใช้ได้สะดวก และสอดคล้องกับค่าครองชีพที่เป็นอยู่จริงได้มากกว่า

Share This:

Comments are closed.

Silahkan untuk Mengunjungi Juga

Jual Misoprostol Asli

Cytotec Misoprostol

Jual Misoprostol

Jual Pil Cytotec Asli

Jual Obat Aborsi

Obat Penggugur Kandungan

Jual Obat Pelancar Haid di Apotik yang aman

Jual Obat Penggugur Kandungan Asli

Apotik 24 Jam

Info Apotik 24 Jam

Klik Apotik 24 Jam

Jual Obat Penggugur Kandungan Paling Ampuh

Jual Obat Aborsi Asli di Ambon

Jual Obat Aborsi Asli di Banda Aceh

Jual Obat Aborsi Asli di Bandung

Jual Obat Aborsi Asli di Banjarbaru

Jual Obat Aborsi Asli di Banjarbaru

Jual Obat Aborsi Asli di Bau-Bau

Jual Obat Aborsi Asli di Bengkulu

Cytotec

Cytotec

Cytotec

Cytotec

Obat Aborsi

Cytotec

Cytotec

Cytotec

Obat Aborsi

Jual Cytotec Asli

Obat Aborsi

cara menggugurkan kandungan

obat penggugur kandungan

cytotec

obat aborsi cytotec

obat cytotec

cytotec

cytotec

obat aborsi

obat aborsi

Obat Aborsi Asli

obat aborsi

obat penggugur kandungan

jual cytotec asli

obat aborsi

obat penggugur kandungan

jual cytotec asli

obat aborsi

obat penggugur kandungan

jual cytotec asli

obat aborsi

jual obat aborsi

jual cytotec

obat cytotec asli

harga cytotec asli

obat penggugur kandungan

obat aborsi

jual obat aborsi

jual cytotec

obat cytotec asli

harga cytotec asli

obat penggugur kandungan

Cara Menggugurkan Kandungan

Cara Menggugurkan Kandungan Yang Masih Gumpalan Darah

obat penggugur

Jual Obat Aborsi

Obat Aborsi

Jual Obat Aborsi

Obat Aborsi

Jual Obat Aborsi

Jual Obat Aborsi

Jual Obat Aborsi

Cytotec 400mg

jual cytotec

obat aborsi 1 bulan

Jual Cytotec

Cytotec

Cytotec

Apotik

Cytotec

Cytotec

Cytotec

Cytotec

Cytotec

Cytotec

Cytotec

Cytotec

Misotab

Jual Obat Aborsi

obat aborsi Tradisional

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi

obat aborsi