ในแต่ละครั้งที่มีการจัดการแสดงคอนเสิร์ต เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนไม่ว่าจะเป็นศิลปินไทยหรือต่างชาติ ล้วนได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากเหล่าบรรดาแฟนคลับ ยิ่งเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก จำนวนบัตรเข้าชมที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของคนนั้น ถือเป็นปัญหาใหญ่ของเหล่าบรรดาแฟนคลับ จุดนี้เลยกลายเป็นช่องว่างที่ทำให้เหล่ามิจฉาชีพหารายได้จากการหลอกขายบัตรในราคาที่สูงขึ้น รวมไปถึงการหลอกขายแต่สุดท้ายก็โดนเชิดเงินไปอยู่บ่อยครั้ง
เมื่อย้อนไปดูการคอนเสิร์ตของศิลปินเกาหลีชื่อดังอย่าง EXO เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็พบว่า มีเหล่าแฟนคลับหลายรายที่ตกเป็นเหยื่อ จากที่ทีมข่าวได้รวบรวมข้อมูลการโกงของเหล่ามิจฉาชีพทำให้ทราบว่า เหล่ามิจฉาชีพมีวิธีในการหลอกขายบัตรมีหลายรูปแบบซึ่งจะเป็นในทิศทางที่คล้ายคลึงกัน นั่นก็คือประกาศขายผ่านทาง Hashtag หลักของคอนเสิร์ตนั้นๆ ทั้งใน Twitter และ facebook บัตรที่ถูกนำมาขายต่อ แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือ บัตรที่ถูกขายในราคาปกติและบัตรที่ถูกอัพราคาให้สูงขึ้น ราคาที่ถูกบวกเพิ่มจะแตกต่างกันออกไป ในส่วนของแอคเคาท์ที่นำบัตรมาขายต่อนั้น มีตั้งแอคเคาท์ที่เปิดเผยตัวตนและไม่เปิดเผยตัวตน แต่สิ่งที่ทำให้ผู้เสียหายชั่งใจเลือกโอนเงินไปนั่นก็การที่มิจฉาชีพเหล่านั้น ส่งภาพบัตรประชาชนมาให้เพื่อเป็นการยืนยันตัวตน
คุณณิชกานต์ รักวงษ์ฤทธิ์ ผู้เสียหายจากการโดนโกงบัตรครั้งนี้เล่าว่า ตนรู้อยู่แล้วว่ามีการโกงบัตรคอนเสิร์ตเป็นประจำ แต่ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเพราะผู้ขายส่งบัตรประชาชนของเขามาให้ เลยโอนเงินไปทันทันที แต่หลังจากนั้นผู้ขายก็หายเงียบ ในขณะเดียวกันคุณแก้ว อีกหนึ่งผู้เสียหายบอกกับทางทีมข่าวว่า ตนได้พูดคุยกับผู้ขายมาตลอดตั้งแต่วันซื้อบัตรจนถึงวันคอนเสิร์ต เพราะเลือกรับบัตรหน้างาน กว่ารู้ตัวว่าโดนโกงก็ตอนคอนเสิร์ตเริ่มแล้ว คุณแก้วยังบอกกับทีมข่าวอีกว่า เหตุผลที่ทำให้เราเชื่อว่าเขาไม่โกงคือมีคนซื้อบัตรกับเขาหลายคน แล้วคนที่ไปดูคอนฯ 2 วันแรกได้บัตรกันหมด เขาเลือกมาโกงเราและคนที่เหลือในวันสุดท้าย
จากการให้สัมภาษณ์ของแหล่งข่าว ทำให้ทราบเพิ่มเติมอีกว่า ยังมีอีกหลายวิธีที่ถูกคนร้ายหลอกให้ไว้ใจ ทั้งการพูดคุย การเลือกกลุ่มคนที่จะโกง นอกจากนี้ผู้เสียหายทั้ง 2 คนยังข้อมูลกับทีมข่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการแจ้งความนั้นได้รวบรวมข้อมูลไปแจ้งที่สถานีตำรวจเพื่อเป็นการบันทึกประจำวันไว้ รอการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ตนก็ใช้บัตรประชาชนที่คนร้ายส่งมา สืบหาตัวคนร้ายทุกช่องทางด้วยตนเอง ประกอบกับได้ความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ ที่โดนโกงเหมือนกัน ทำให้ตามจนเจอตัวคนร้ายและได้เงินคืนในที่สุด
นายนราวุธ ท้องฟ้า ผู้บังคับหมู่ป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด ชี้แจงในกรณีนี้ว่า คดีความทุกคดีจะมีระยะเวลาในการดำเนินคดี ตำรวจต้องทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย หากเรียกตัวคนร้าย 3 ครั้งแล้วยังไม่มารายงานตัว ก็จะเป็นขั้นตอนของชั้นศาล ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างยาวนาน แต่ส่วนใหญ่ก็จะถอนแจ้งความกันไปก่อนเป็นส่วนใหญ่ และยังพูดถึงคนที่ซื้อบัตรอีกว่า คดีฉ้อโกงในรูปแบบนี้มีเยอะมากครับ อยากแนะนำให้ผู้ซื้อ ซื้อกับหน่วยงานที่เปิดขายจะดีที่สุด เพราะบางรายซื้อในราคาที่สูงเป็นเท่าตัว ซึ่งในส่วนนี้ทางตำรวจไม่สามารถเอาผิดได้เพราะถือเป็นการสมยอมของผู้ซื้อเอง
ในขณะเดียวกันทาง Thai Ticket Major ตัวแทนจำหน่ายบัตรได้ให้ข้อมูลว่า หากพบเจอบัตรที่ถูกนำไปขายในราคาที่เพิ่มขึ้น สามารถแจ้งทาง Thai Ticket Major เพื่ออายัดบัตรนั้นได้ แต่หากเป็นกรณีที่มีการซื้อขายแล้วโดนโกงทางหน่วยงานจะไม่มีการับผิดชอบใดๆ
ดูเหมือนว่าการถูกโกงบัตรคอนเสิร์ตนี้จะไม่มีหน่วยงานใดที่สามารถช่วยเหลือหรือคุ้มครองผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ เพราะจากการให้ข้อมูลของมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค ทำให้ทราบว่าทางหน่วยงานสามารถช่วยเหลือได้ ในส่วนการเจรจากับผู้ร้ายให้คืนเงิน กรณีที่รู้ตัวผู้ร้ายแล้วเท่านั้น