วัฒนธรรมการแต่งกายจึงมีการปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลา กระแสมาจากโซเซียลมีเดีย สังคมเองก็มองว่าแต่งชุดไทยเป็นเรื่องที่ดี “กระแสนี้ จะยั่งยืนหรือแค่ชั่วคราว ธุรกิจจะโตตามกระแสได้จริงหรือไม่” ผศ.ดร.อัศวิน เนตรโพธิ์แก้ว ผู้อำนวยการหลักสูตรปริญญาเอก คณะนิเทศศาสตร์และนวัฒกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(NIDA) น้ำปรุง จรุงจิต หรือ ชลัมพ์ ประคองทรัพย์ เน็ตไอดอล ที่ชื่นชอบหลงใหลในเรื่องของความเป็นไทย และ ชีวชล ปิยะสนธิ์ แอดมินเพจแต่งไทยสไบงาม สยามภูษานิยม มาไขข้อประเด็นในมุมมองที่ต่างกัน
ดร.อัศวิน : กระแสคงไม่ยั่งยืน เพราะความเป็นไปได้ที่ทุกคนจะแต่งชุดไทย ทุกวันเป็นไปได้ยาก ต้องมีการส่งเสริม เช่น หาโอกาสที่มาสนับสนุนให้มีการแต่งชุดไทยบ่อยขึ้น ส่วนในมุมธุรกิจ ถ้ามีการต่อยอดหรือการสร้างสินค้าใหม่ๆที่มีลักษณะแฝงความเป็นไทยเดิมเอาไว้ ประยุกต์ให้ทันยุคสมัย ทั้วสินค้าประเภทเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับต่างๆ ต่อยอดสู่การกินและท่องเที่ยว ถ้าจับกระแสถูกทางก็อาจเป็นโอกาสใหม่ทางธุรกิจได้
หญิงน้ำปรุง : อยากให้คนไทยหันหลับมาเห็นความสำคัญสินค้าของไทยมากกว่าเพราะว่าเศรษฐกิจจะได้ดีขึ้น สื่อออนไลน์กลยุทธ์หนึ่งที่จะช่วยส่งเสริม ปลุกกระแส และสร้างค่านิยมใหม่ๆให้กับวัฒนธรรม สินค้าไทย อาทิ สร้างกระแสให้คนหันมาใช้สินค้าไทยหรือให้คนที่มีชื่อเสียงมาเป็นแบบอย่างในการใช้สินค้าไทย เพราะคนที่มีชื่อเสียงหรือดารานักแสดง เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างกระแสคนไทยจะมีความโหยหาในความเป็นไทยอยู่แล้ว แต่ความไม่กล้าเข้ามามีบทบาทเพราะว่าช่วงนี้เป็นช่วงแรกของกระแสการแต่งชุดไทย เป็นช่วงที่ต้องใช้ความกล้าที่จะแตกต่าง หวังว่ากระแสชุดไทยจะยั่งยืนถ้ามีหน่วยงานต่างๆให้วามสำคัญ
ชีวชล : ความจริงแล้วคนไทยเรายังรณรงค์เรื่องการใช้สินค้าไทยไม่เพียงพอ ภาครัฐรณรงค์เรื่องนี้แต่ก็ขาดความต่อเนื่อง ทำให้สนใจแค่พักๆแล้วก็หยุดหันไปบริโภคแบรนด์ต่างชาติ ส่งเสริมการใช้สินค้าไทยอย่างต่อเนื่อง จะเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนใช้สินค้าไทย อีกทั้งยังช่วยให้เศรษฐกิจท้องถิ่นฟื้นตัว ปี 2558 ก็รณรงค์ให้เป็นปีการท่องเที่ยววิถีไทย ควรสร้างกิจกรรมให้ดึงเอาความเป็นไทยออกมาให้ชัดเจน