ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริม การใช้ประโยชน์จากวิทยาศาตร์และเทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา โดยให้ควมสำคัญต่อการพัฒนาต่อยอดและการสร้างนวัตกรรม ซึ่ง B-Hive 1 เป็นการพัฒนา นวัตกรรมหุ่นยนต์ทางการแพทย์ ที่ช่วยในการจัดและลำเลียงยาอัตโนมัติ เป็นความสำเร็จที่สะท้อนบริบทในการพัฒนาประเทศ ใน ด้านการแข่งขัน ถือเป็นต้นแบบที่เปิดโอกาสให้นักวิจัยไปปฎิบัติงานเพื่อเพิ่มขีดความสามรถให้กับภาคเอกชน อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้ในสถานที่ทำงานจริง
ด้าน นายกำธร กาญจนวตี กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุพรีม “ฮทีร่า จำกัด กล่าวว่า B-Hive 1 สามารถรับใบสั่งยาโดยตรงจากแพทย์ผู้รักษาผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ช่วยจัดยากล่องและขวด ด้วยความเร็วไม่น้อยกว่า 150 ใบสั่งยา ต่อชั่วโมง ซึ่งสามารถเชื่อมกับระบบการตรวจสอบและพิมพ์ฉลากยาได้ อีกทั้งสามารถตรวจสอบข้อมูลยาคงเหลือในแต่ละชนิดของรายการ ทำให้สามารถบริหารจัดการยา และจัดยาส่งไปยังเภสัชกรผ่านระบบสายพานลำเลียงได้อย่างครบวงจร ลดภาระงานเภสัชกรเหลือเพียงตรวจเช็คยา และปฎิสัมพันธ์กับผู้ป่วย การทำงานของระบบดังกล่าว สามารถลดภาระงานของเภสัชกร และลดข้อผิดพลาดในการจัดยา รวมถึงควบคุมการเบิกจ่ายยาได้ ทำให้ลดเวลาการรอคอยของผู้ป่วยและลดปัญหาเรื่องของการสูญหายของยาได้ ส่งผลให้ประหยัดงบประมาณของประเทศจากการลดปริมาณยาเหลือทิ้ง ซึ่งมีมูลค่า 1,000 ล้านบาทต่อปีจากข้อมูลโครงการลดยาเหลือทิ้งของสภาเภสัชกรรม
