ทุกวันนี้ เรามักจะพบเห็นหมาแมวจรจัดตามท้องถนน บ้างก็ป่วย บ้างก็โดนรถชน บ้างก็โดนกัด หรือเป็นโรคจนเสียชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องบั่นทอนใจอย่างมากกับกลุ่มคนรักน้องหมาน้องแมว โชคดีที่ประเทศไทยก็มีศูนย์ช่วยเหลือสัตว์พิการหรือแม้แต่สัตว์จรจัดที่ไม่มีเจ้าของดูแล นั่นก็คือ มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) โดยสำนักข่าว The Prototype ได้มีโอกาสลงพื้นที่ไปเยี่ยมชมมูลนิธิเเละได้มีการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ของ มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ นั่นก็คือ คุณครรชิต วาพิไล ผู้ช่วยผู้จัดการมูลนิธิและการเงิน นั่นเอง
“แรกเริ่มเดิมที มูลนิธินี้ใช้ชื่อว่าบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ ต่อมา ในปี 2536 หลวงตามหาบัวญาณสัมปันโน แห่งวัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ท่านทราบข่าว ท่านก็เมตตามาที่ปากเกร็ดเพื่อมาเยี่ยมชมน้องหมาน้องแมว และอยากจะอนุเคราะห์ช่วยเหลือให้น้องหมาน้องแมวได้มีคนดูแลและรักษา มีคุณหมอประจำ ท่านเลยได้เมตตาอนุเคราะห์ช่วยค่ารักษาพยาบาลให้กับมูลนิธิ เดือนละ 100,000 บาทต่อเดือน หลังจากนั้น เราเลยขออนุญาตท่านจดทะเบียนเป็นมูลนิธิที่ถูกต้องตามกฎหมาย ได้ใช้ชื่อว่ามูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) จนถึงปัจจุบันนี้”
ทางสำนักข่าว The Prototype ได้สอบถามเจ้าหน้าที่มูลนิธิบ้านสงเคราะห์เกี่ยวกับการก่อตั้ง คุณครรชิตเผยว่า “ตั้งแต่มูลนิธิของเราจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แล้วได้ใช้ชื่อว่า มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ ก็ทำให้มีคนรู้จักมากขึ้น ให้การตอบรับและการสนับสนุนในการยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ในเรื่องของค่ายา ค่าหมอ ค่ารักษาพยาบาล รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในมูลนิธิ”
“ต้องกล่าวก่อนว่า ทางเราเป็นมูลนิธิเอกชนที่ดูแลหมาแมวพิการที่ไม่มีเจ้าของหรือไม่มีคนดูแล ให้ได้มีการรักษาพยาบาลที่ถูกต้อง หลัก ๆ น้องหมาน้องแมวที่ส่งเข้ามาจะเป็นหมาแมวจรจัดที่เดินไม่ได้ ที่ไม่มีเจ้าของ ไม่มีคนเลี้ยงดู ประชาชนทั่วไปที่พบเห็น เอาหมาแมวไปรักษาไปหาคุณหมอเบื้องต้นก่อน หลังจากนั้นได้ติดต่อมาทางมูลนิธิของเราเพื่อให้เรามาดูแลในการรักษาต่อไป”
ทางเราได้สอบถามอีกว่า เจ้าหน้าที่ภายในมูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการจำเป็นต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถโดยพื้นฐานด้านการดูแลสัตว์เหล่่านี้มาก่อนหรือไม่ คุณครรชิตกล่าวว่า “ต้องบอกก่อนว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนพอมีพื้นฐานกันอยู่บ้าง แต่เรามีคุณหมอที่มีความรู้มีความสามารถแล้วมีเจ้าหน้าที่ ที่ทำงานอยู่กับคุณหมอมาเป็นเวลานาน มีความรู้ในการดูแลรักษาสัตว์ คุณหมอจะแนะนำถึงขั้นตอนการรักษา การทำแผล เจ้าหน้าที่ก็จะใช้ความจำและประสบการณ์ในการดูแลสัตว์”
ปัจจุบัน ทางมูลนิธิมีน้องหมาน้องแมวอยู่ประมาณเกือบ 900 ตัว โดยที่สาขาปากเกร็ดจะเป็นที่พักฟื้นดูแลเบื้องต้น จะมีอยู่ประมาณ 250 ตัว หลังจากที่คุณหมอทำการดูแลรักษาอาการดีขึ้น ก็จะนำน้องหมาน้องแมวย้ายไปอยู่ที่สาขาบางเลน นครปฐม ซึ่งปัจจุบันสาขาบางเลน มีน้องหมาน้องแมวอยู่ประมาน 600 กว่าตัว
คุณครรชิตทิ้งท้ายไว้ว่า ท่านใดที่อยากมีส่วนร่วมในการบริจาค ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของหรือปัจจัย สามารถส่งพัสดุมาได้ “หลัก ๆ ตอนนี้ที่เราต้องการคืออาหารสัตว์ป่วยทั้งหมาและแมว หรือถ้าท่านใดจะเข้ามาเยี่ยมชมก็สามารถโทรศัพท์เข้ามาสอบถามก่อนว่าทางมูลนิธิต้องการอะไรบ้างที่เร่งด่วน ทางเราก็จะมีการแนะนำเบื้องต้นให้ว่า วันนี้เราขาดข้าวสาร ขาดน้ำยาล้างพื้น เราขาดอาหารสัตว์ป่วย เราก็จะมีการบอกต่อไป”
หากท่านใดสนใจช่วยเหลือน้องหมาน้องแมว หรืออยากแวะเวียนไปเยี่ยมชม หรือบริจาค สามารถเดินทางไปได้ที่ มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ สาขาปากเกร็ดและสาขาบางเลนได้ สามารถเข้าไปป้อนขนมน้องแมว และถ่ายภาพ นั่งเล่นกับน้องแมวได้ แต่ในกรณีของน้องหมานั้น ไม่สามารถให้อาหาร หรือสัมผัสหยอกล้อน้องได้ เนื่องจากน้องหมาบางตัวมีนิสัยดุร้าย ไม่คุ้นคนแปลกหน้า และน้องกำลังป่วย เจ้าหน้าที่จึงไม่แนะนำที่จะให้เล่นกับน้องหมา ก่อนเข้าไปภายในห้องของน้องแมว ต้องทำความสะอาดตนเองด้วยการล้างมือทั้งก่อนและหลัง
หากท่านใดมีจิตเมตตา ร่วมบริจาคช่วยเหลือสัตว์พิการ ผ่านช่องทางการโอนเงินเข้าบัญชีมูลนิธิฯ เลขที่บัญชีดังนี้
ชื่อบัญชี มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ
ประเภทออมทรัพย์ สาขาสรงประภา
ธ.กรุงเทพ เลขที่ 059-0-12305-5
ธ.กสิกรไทย เลขที่ 422-2-20785-7
ธ.กรุงไทย เลขที่ 198-0-26078-8
ธ.กรุงศรีอยุธยา เลขที่ 332-1-08971-9
ธ.ซีไอเอ็มบี เลขที่ 700-0-89011-4
ธ.ไทยพาณิชย์ เลขที่ 105-2-18418-1
เรื่อง: ปริวศา บินมายิด
ภาพ: ณภัทร ช่วยคิด
กราฟิก: วัยวัฒน์ สมสุข
